วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

10 วิธีเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

10 วิธีเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

1.ฟังเพลงคลาสสิก: ลองเลือกเพลงคลาสสิกมาฟังยามที่คุณหมดมุก มีการศึกษาว่าหากฟังเพลงคลาสสิกจะช่วยทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘The Mozart Effect’ ที่ทำให้สมองคุณปลอดโปร่ง เพิ่มสมาธิ และมีความคิดสร้างสรรค์ดีๆ เกิดขึ้น แม้วิธีนี้จะยังไม่มีการอธิบายผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ที่แน่ๆ มันไม่มีผลเสีย ยกเว้นฟังเพลินจนหลับไป

2.เขียนด้วยมือ: ดร.แครี และอัลตัน บาร์รอน ผู้เขียนหนังสือ The Creativity Cure ให้คำแนะนำว่า ถ้าเปิด MS Word แล้วไม่สามารถร่ายไอเดียอะไรออกมาได้เลย ก็ปิดมันซะ แล้วหยิบกระดาษมาเขียนแทน บางครั้งการที่มือได้สัมผัสปากกา ได้เขียน ได้กลิ่นสมุดโน้ต รวมไปถึงกลิ่นน้ำหมึก มันอาจช่วยให้คุณกลั่นไอเดียบรรเจิดออกมาได้ด้วยปลายนิ้ว

3.ทำสมาธิ: บางทีการเลือกที่จะอยู่นิ่งๆ ในตอนที่คุณจิตใจว้าวุ่นก็ช่วยให้สมองคุณได้พัก และเข้าสู่โหมดฟื้นฟูสภาพจิตใจชั่วคราวได้ วิธีนี้ก็คล้ายวันที่เราเดินทางไกล เราก็ต้องแวะข้างทางเพื่อพักผ่อนไม่ใช่เหรอ นั่นแหละคล้ายๆ กัน

4.ขอความเห็นจากเพื่อน: มันไม่ยากหรอกที่จะเดินไปถามเพื่อนว่า เฮ้ย! ขอไอเดียหน่อยสิ เราคิดไม่ออก ถามไปเลยไม่ต้องอาย เพราะบางทีความคิดของเพื่อนอาจทำให้คุณเกิดไอเดียที่สามารถต่อยอดจนคุณหลุดพ้นสภาวะตีบตันก็ได้

5.เล่นเกมสุ่มคำ: ไปหยิบพจนานุกรมมาสักเล่มหนึ่งเปิดไปหน้าไหนก็ได้ สุ่มมาคำหนึ่งหรือประโยคหนึ่งแล้วเขียนสิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับคำที่เลือกมาลงไป เขียนอะไรก็ได้ การเขียนแบบอิสระตามความรู้สึกโดยมีกติกาเล็กๆ มากำหนดช่วยให้คุณระบายความอัดอั้น และยังสร้างไอเดียดีๆ ออกมาได้ด้วย

6.ฝันกลางวัน: เปิดโอกาสให้ตัวเองสามารถเพ้อฝันถึงอะไรก็ได้ คิดฝันไปเรื่อยๆ อย่างไร้ขอบเขต คิดถึงอนาคตที่ดีกับคนที่คุณแอบรัก คิดถึงธุรกิจในอนาคต การคิดแต่สิ่งดีๆ ที่คุณชอบเป็นการผ่อนคลายสมองวิธีนึง

7.คิดถึงอนาคต: มีผลวิจัยระบุว่า มนุษย์จะมีความสามารถในการแก้ปัญหาได้ดีขึ้นเมื่อได้คิดถึงอนาคตหรืออดีตที่ผ่านมา หรือสถานที่อื่นๆ ที่ไกลออกไป (ยิ่งไม่เคยไปยิ่งดี) แล้วปล่อยจินตนาการของคุณไปกับเรื่องเหล่านั้น ถือเป็นการพักผ่อนสมองไปในตัว

8.ขำน้อยๆ แต่พองาม: การหัวเราะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้จากสถานการณ์ที่บางทีก็ดูบีบคั้นเกินไป ลองหัวเราะออกมาเบาๆ อาจจะแค่ ฮ่าๆ หรือหึหึ การหัวเราะจะช่วยสร้างอารมณ์เชิงบวกให้ได้ไม่มากก็น้อย หึหึ

9.อยู่ในที่โล่งๆ กว้างๆ: มีการศึกษาว่าคนที่นั่งคิดงานอยู่ในพื้นที่โล่ง จะมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีกว่าคนที่อุดอู้ทำงานอยู่แต่ในห้องหรือที่แคบๆ หรือถ้าออกไปทำงานข้างนอกออฟฟิศมันยากไป ก็ไปนั่งในห้องโถงของออฟฟิศก็ได้ ขอแค่กว้างกว่าห้องทำงานของคุณก็พอ

10.บริหารดวงตา: บริหารดวงตาของคุณด้วยการกรอกตาไปมา จากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย จะช่วยบริหารสมองทั้งสองซีกไปพร้อมๆ กัน และอาจจะช่วยให้สมองโล่งขึ้นก็ได้ เอ้า! ลองดูกันได้เลย

ข้อมูลจาก http://men.sanook.com


วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

10 สิ่งที่คุณต้องเผชิญ เมื่อออกตามล่าฝัน

10 สิ่งที่คุณต้องเผชิญ เมื่อออกตามล่าฝัน


1. คุณจะรู้สึกกลัว ในการก้าวออกจาก Comfort Zone ที่คุณคุ้นเคย

บอกตัวเองว่า คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนก็กลัว แต่เขากลัวการมีชีวิตที่ตัวเองไม่ต้องการมากกว่า

2. บางครั้งคุณจะรู้สึกเสียความมั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่

คุณมี 2 ทางเลือกคือ หยุดพักเพื่อหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติม หรือ สร้างความศรัทธาเพิ่มให้กับตัวเอง โดยบอกตัวเองว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร คุณก็จะสามารถเอาตัวรอดได้ และได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมากมาย

3. คุณจะหวั่นไหวจากการถูกยั่วยวนด้วยงานที่มั่นคงกว่า

ระหว่างทางมักมีสิ่งที่คอยดึงดูดความสนใจให้คุณเลือกเปลี่ยนเส้นทางอยู่เสมอ

4. คุณจะไม่สามารถทำตามความต้องการของทุกคนที่อยู่รอบตัวได้

หลายคนที่รักคุณหรือคนที่คุณรักอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำ เพราะด้วยความเป็นห่วง

5. คุณจะค้นพบราคาที่คุณต้องจ่ายในการทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง

คุณพบว่าตัวเองต้องใช้เวลาอย่างมากอย่างที่ไม่คิดมาก่อนในการเรียนรู้ ฝึกฝน ลองผิดลองถูก เพื่อทำในสิ่งที่คุณต้องการให้ได้ดีกว่าคนอื่น ซึ่งระหว่างทางคุณจะพบกับอุปสรรคและความผิดหวังมากมาย ที่อาจต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา

6. คุณจะได้เรียนรู้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง

หลังจากฝ่านความผิดหวังมากมาย คุณจะเริ่มพบกับความสำเร็จทีละเล็กละน้อย ที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้ตัวคุณเองมากขึ้น จนคุณเริ่มรู้สึกว่าเริ่มหายใจด้วยจมูกของตัวเองได้ และเริ่มยืนด้วยสองขาของตัวเองได้ สำหรับผม มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เกินคำบรรยายจริงๆ

7. คุณจะพบเพื่อนที่เลือกทางเดินในการตามหาฝันเช่นเดียวกับคุณ

แม้คนที่ตัดสินใจออกตามหาความฝันและทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จะเป็นคนส่วนน้อย แต่คุณจะพบเพื่อนร่วมอุดมการณ์มากมาย ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่เดียวดายอีกต่อไป เช่น วู๊ดดี้ ชอบคุยก็ได้ทำรายการ Talk Show, ธงชัย ใจดีชอบเล่นกอล์ฟ ก็เลือกทำอาชีพนักกอล์ฟ หรือ ผมที่ชอบแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ

8 คุณจะได้เรียนรู้ในเรื่องความอดทน

กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวฉันได้ ความสำเร็จของคุณก็ต้องใช้เวลา อดทน และรอคอย

9 คุณจะได้ค้นพบความหมายที่แท้จริงของคำว่าศรัทธาและความเชื่อมั่น

คนทั่วไป เห็น แล้วจึง เชื่อส่วนคนที่ประสบความสำเร็จ เชื่อ แล้วคุณจึงมองเห็น
การมีศรัทธา คือ การมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ต่อสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณมาก่อน

10 คุณจะพบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

คุณจะพบว่าตัวเองอยากจะกระโดดลุกขึ้นจากเตียงทุกเช้า เพื่อตื่นขึ้นมาทำสิ่งต่างๆที่คุณวางแผนไว้ มีความสุขในการลงมือทำ และยิ่งมีความสุขเพิ่มขึ้นเมื่อคุณเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน คุณก็จะไม่หวั่นไหวแม้ว่าบางครั้งคุณจะเจออุปสรรคที่ยิ่งใหญ่  และคุณจะไม่เหมือนคนเดิมอีกต่อไป
ข้อมูลจาก http://www.dek-d.com/board/view/3425216

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

4 เคล็ดลับ! สู่การเป็น CEO ก่อนอายุจะ 30

4 เคล็ดลับ! สู่การเป็น CEO ก่อนอายุจะ 30

 

ว่ากันว่าอายุเป็นเพียงตัว ‘เร่ง
ใครจะคาดคิดว่าแค่ตัวเลขสองหลัก จะมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ได้เพียงนี้ บางรายไม่อยากให้เลขมากขึ้น บางรายอยากเร่งให้เลขขึ้นไวบางรายเลขยิ่งมากยิ่งอุ่นใจ แต่บางรายเลขยิ่งขึ้นยิ่งรู้สึกว่าต้องรีบทำอะไรสักอย่างให้ประสบผลสำเร็จแล้ว!
ในการทำงาน, อายุที่มากขึ้น นั่นหมายถึงคุณภาพและประสบการณ์ที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่บางครั้งเรากลับพบว่าสิ่งที่สั่งสมมาอาจยังไม่เพียงพอกับการได้เลื่อนขั้น ติดบั้ง ประดับยศ ในตำแหน่งใหญ่ๆของบริษัท อย่าเพิ่งหมดหวังกันไปครับ เพราะเรามีเคล็ดลับฉบับรู้ทัน 3 วิธี สู่การตบเท้าขึ้นไปยืนตำแหน่ง CEO ก่อนที่อายุของคุณจะตบก้าวแซงไปที่หลักสามเสียก่อน

 ถูกที่-ถูก งาน
มีคนเคยกล่าวว่าทำงานที่ไหนไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าทำกับใคร ไม่จำเป็นว่าเราต้องได้อยู่บริษัทใหญ่ๆ มีชื่อเสียง อนาคตมั่นคง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้ร่วมงานหรือคนที่เราทำงานด้วยต่างหาก คนเหล่านี้แหละเป็นคนที่ฝึกวิชาให้เราได้ดีที่สุด การที่เราได้ทำงานกับคนเก่ง และมีคุณภาพ จะทำให้เราซึมซับ และฝึกฝนวิชาไปในตัว ถึงจะเป็นบริษัทมีชื่อเสียงที่ใครๆก็อยากทำงานด้วย แต่ถ้าบุคลากรข้างในไม่ได้เรื่อง ก็ไม่มีประโยชน์ครับ พาแต่จะรั้งให้เราย้ำอยู่กับที่จนไม่ได้อะไรเลยเสียเปล่า

อายุการใช้งาน
อย่าปล่อยให้ อายุเข้ามาครอบงำและบดบังการทำงานของเรา บ่อยครั้งเราอาจต้องสั่งงานกับคนที่เราเรียกเขาว่า พี่!ด้วยยศตำแหน่งที่เราสูงกว่า จึงทำให้บางครั้งเราอาจรู้สึกลำบากใจ กลืนไม่เข้าสั่งไม่ออก กับการออกคำสั่งคนที่มีอายุมากกว่า ขอให้มองข้ามเรื่องนี้ไปให้ได้ครับ เมื่อไหร่ที่เรามองข้ามไปได้ คนที่ทำงานกับเราก็จะมองข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน นึกไว้เสมอว่าหากวันนึงคุณได้ขึ้นไปยืนแท่น CEO ด้วยอายุเพียง 28 ถึงเวลานั้นก็ต้องมองข้ามเรื่องอายุไปให้ได้เหมือนกัน ฝึกไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพราะเมื่อวันนั้นมาถึง เราจะเหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างไม่มีที่ติเลยเชียวล่ะ

รอมากมักลาภหาย
บ่อยครั้งที่เราเลือกที่จะรอโอกาสดีๆให้วิ่งเข้ามาหา จากนั้นจึงค่อยกระโจนเข้าใส่ แต่เชื่อเถอะครับว่าคนที่ชอบรอ ก็ยังคงเป็นคนที่ต้อง รออยู่วันยันค่ำ ก้าวออกมาจากความคิดเดิมๆ และมองหาโอกาสดีๆให้กับตัวเองบ้าง บุกบ้าง ถอยบ้าง ก็ไม่ได้ผิดกติกาแต่อย่างใด โอกาสมันไม่ได้มาหาเรา เราต้องเข้าหามันก่อนเสมอ เพราะเราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเองเสมอจงอย่าให้คนอื่นมาเลือกให้เราครับ

วิทยา งาน’ 3 สิ่ง
3 สิ่งสำคัญที่เราขาดไม่ได้ ต้องพกติดตัวเก็บใส่กระเป๋าเอาไว้ใช้เลยเชียวล่ะ คือ 1.น้ำเสียง 2.แววตา 3.คุณภาพทางใจ ทั้งสามอย่างนี้ถูกควบคุมด้วยสิ่งเพียงสิ่งเดียว คือ ใจ’ เมื่อจิตใจเราดีทุกอย่างดีหมด น้ำเสียงบอกพลัง แววตาบอกความมุ่งมั่น คุณภาพทางใจบอกความสุขความสบายทั้งกายและใจของเรา เหมือนดังคำกล่าวที่ว่าทุกสิ่งสำเร็จได้เพราะใจ ครับ
เราต้องพร้อมเสมอที่จะเรียนรู้ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้พร้อมเสมอที่จะได้รับการสั่งสอนก็ตาม อย่าท้อถอยครับ

ข้อมูลจาก http://www.marketingoops.com