วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

7 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จและร่ำรวย


7 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง 

เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จและร่ำรวย 



1. ไม่มีคำว่า Plan ในชีวิตประจำวัน
เราจะหมดเวลาไปกับการคิดว่า จะทำอะไรต่อดี และจะสับสนกับการย้อนกลับไปกลับมา แล้วสุดท้ายเมื่อสิ้นวัน มันจะไม่ค่อยได้งานอะไรเป็นก้อนๆ คนประสบความสำเร็จ ตั้งเป้าหมายกับทุกสิ่ง แม้กระทั่งการหาที่จอดรถ เขาก็ยังวางแผน (เพื่อไม่ให้เสียเวลา) คิดแม้กระทั่ง หากเดินไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเดินจะโทรหาใครเพื่อคุยงานให้เสร็จ 

มองเงินเป็นเป้าหมายหลัก
การตั้งเป้าหมายเป็นเงินล้วนๆ จะทำให้ขาดแรงบันดาลใจ และสิ่งกระตุ้นสู่ความสำเร็จ 
เป้าหมายในชีวิต ที่คนสำเร็จวางไว้คือ ภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว ว่าจะมีชีวิตอย่างไร มี lifestyle แบบไหนแรงกระตุ้นชั้นดี ที่จะทำให้เรามีความสุขแรงแรงบันดาลใจในการทำเป้าหมายของเราให้ลุล่วง

มัวแต่สนใจว่าคนจะมองอย่างไร หรือคิดว่าเราควรเป็นอะไร
คนที่ประสบความสำเร็จ มักวาดภาพให้กับชีวิตของตนเองมากกว่า ที่จะให้คนรอบข้างมากำหนดว่าเขาควรจะไปทางไหน .. มีคำพูดหนึ่งที่ว่า
 “ คำพูดของคนรอบข้างมันจะไม่มีความหมายเลย ถ้าเราไม่ได้ไปยอมรับหรือตกลงว่าเราจะเป็นอย่างนั้น"

ไม่เติมความหวานให้กับชีวิต
การเดินทางยาวๆมันจะเหนื่อยและหมดแรงไปเรื่อยๆ หากเราไม่หาความสนุกเข้ามาสอดแทรกระหว่างทาง

การดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจก็เช่นกัน หากเราไม่แวะพักเพื่อเติมไฟกันบ้าง เป้าหมายถึงอยู่ไม่ไกล แต่อาจจะไปไม่ถึงเพราะหมดสนุกไปซะก่อน 

จมอยู่กับอดีต
หากเรายังเสียใจกับสิ่งที่เคยไปอยู่ ความคิดเชิงลบมักนำเราไปสู่ สิ่งที่แย่ลงเรื่อยๆ / หรือถ้าเราคิดอย่างเด็กเล็กๆ ที่ไม่เคยต้องสนใจว่า เมื่อวานเพิ่งหกล้มที่มุมเดิมตรงนี้ ก็ยังอยากที่จะลองทำอะไรที่อยากรู้ โดยไม่กลัวสิ่งที่เกิดขึ้น จนเขาสามารถทำมันได้
 

ตื่นสาย 
บางคนอาจบอกว่า ตื่นสายแต่นอนดึกก็ได้เวลาทำงานเท่าๆกัน
ผลวิจัยมียืนยันออกมาว่า สมองและร่างกายจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากหลังจากตื่น2-4ชั่วโมง ลองตื่นมาออกกำลังกายสั้นๆ แล้วนั่งทำงานดูช่วงเช้า จะประหลาดใจว่า ทำได้รวดเร็วขึ้นมาก (แม้ว่ามันจะตื่นยากและง่วงมากในช่วงแรก) // และอีกเรื่องคือการทำธุรกรรม หรือประสานงานต่างๆ จะทได้เร็วขึ้น หากเราติดต่อให้เสร็จตั้งแต่ช่วงเช้า หลายๆครั้งช่วงบ่ายหรือเย็นก็จะได้คำตอบ (แล้วมันมีผลต่องานถัดๆไป) ซึ่งต่างจากการตื่นสาย แล้วประสานงานช่วงบ่าย .. resultมักไม่ค่อยเกิดในวันเดียวกัน

ลืมคนที่เรารักและรักเรา (ที่เรามักชอบขอไว้ทีหลัง)
งานนั้นสำคัญ แต่ ชีวิตครอบครัวก็สำคัญเช่นกัน หลายครั้งที่เรานำเรื่องงานมาเป็นเหตุผลให้ เราต้องเลื่อนนัดคนที่เรารักออกไปก่อน(เรื่อยๆ) โดยลืมไปว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เพื่อความสำเร็จนั้น ก็เพื่อคนที่เรารักด้วยเช่นกัน และเขาเหล่านั้นก็ต้องการเราเช่นกัน 


ที่มา : อาเสี่ย (https://www.facebook.com/penarsia)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น